โธมัส มุลเลอร์ได้รับตำแหน่งในหอเกียรติยศของเยอรมันด้วยผลงาน 44 ประตูจาก 120 นัด และเหรียญรางวัลชนะเลิศฟุตบอลโลกในปี 2014 แต่เวลาก็ไล่ตามอายุ 33 ปี และปัญหาของเยอรมันก็แสดงให้เห็นโดยกองหน้าบาเยิร์น มิวนิค โดยขาดทางเลือกที่น่าเชื่อถือทำให้โค้ชฮันซี ฟลิคต้องอยู่กับผู้เล่นที่เลิกเล่นฟุตบอลทีมชาติหลังยูโร 2020
การขาดอาการบาดเจ็บของ Timo Werner จากการแข่งขันฟุตบอลโลกไม่ได้ช่วยโอกาสของเยอรมัน แต่การขาดผลกระทบของผู้เล่น RB Leipzig ในพรีเมียร์ลีกกับเชลซีแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เคยตอบคำถามของเยอรมัน ดังนั้น ฟลิค จึงยังคงเลือก มุลเลอร์ ต่อไป แม้ว่านักเตะจะทำประตูได้เพียงครั้งเดียวในเกมทีมชาติ 7 นัดหลังสุดก่อนเกมกับสเปนก็ตาม
ฟูลครูกในวัย 29 ปี ก็ไม่ใช่ทางออกสำหรับเยอรมันเช่นกัน กองหน้าแวร์เดอร์ เบรเมน เพิ่งลงสนามให้ทีมชาติสเปนเป็นครั้งที่ 3 และตอนนี้เขาทำได้ 2 ประตู แต่เขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับกองหน้าชาวเยอรมันคนก่อนๆ แต่เป้าหมายของเขาหมายความว่าเยอรมันสามารถผ่านเข้ารอบด้วยการชนะคอสตาริกาในสัปดาห์นี้ และตอนนี้ฟลิคอาจเลือกให้เขาออกสตาร์ทก่อนมุลเลอร์
ประตูของโมราต้าในเกมกับเยอรมันทำให้เขาทำไป 29 ประตู ทำให้เขาอยู่ระดับเดียวกับเฟร์นานโด เอียร์โรในอันดับที่ 5 มีเพียง Torres, Villa, Raul และ David Silva เท่านั้นที่นำหน้า Morata ในอันดับดาวซัลโซทีมชาติสเปน
โมราต้าทำได้ 29 ประตูจาก 59 เกมนั้นน่าประทับใจ แต่แม้แต่โค้ชหลุยส์ เอ็นริเก้ก็ยังเลือกให้เขานั่งเป็นตัวสำรอง แม้ว่าทีมของเขาจะขาดศูนย์หน้าคลาสสิกก็ตาม โมราต้าไม่เหมาะกับแม่พิมพ์นั้น แต่เขามีความใกล้เคียงพอๆ กับสเปนที่มีนักเตะที่สามารถเป็นผู้นำในแนวรับ เชื่อมโยงการเล่น และทำสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือการทำประตู
โมราต้าเอาชนะมานูเอล นอยเออร์ที่เสาใกล้ด้วยการยิงด้วยเท้าขวาจากลูกครอสของจอร์ดี้ อัลบา ใช่ โมราต้าอาจทำให้เขาหงุดหงิดและพลาดมากกว่าที่เขายิงได้ แต่สถิติของเขาบ่งบอกตัวมันเอง และความหวังในฟุตบอลโลกของสเปนจะดีขึ้นเมื่อเขาอยู่ในทีม
